小朋友先做選擇,Audi已經滿足曬車主嘅要求了!
===============
Join & follow us on 👉🏻
The New Black:https://bit.ly/EsquireHKMembership
Facebook:https://www.facebook.com/hk.esquire
Instagram:https://instagram.com/esquirehk
YouTube:https://bit.ly/SubscribeToEsquireHK
#EsquireHK #EsquireAuto #EsquirePolo
同時也有86部Youtube影片,追蹤數超過37萬的網紅Nova Music Videos,也在其Youtube影片中提到,Hari Ini Hari Raya - Amir Masdi | Official Music Video Jom dengarkan single terbaru dari #AmirMasdi berjudul #HariIniHariRaya Artist: Amir Masdi Son...
「audi us」的推薦目錄:
- 關於audi us 在 Esquire HK Facebook 的精選貼文
- 關於audi us 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於audi us 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於audi us 在 Nova Music Videos Youtube 的最讚貼文
- 關於audi us 在 Nova Music Videos Youtube 的最佳貼文
- 關於audi us 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
- 關於audi us 在 Audi USA - Home | Facebook 的評價
- 關於audi us 在 Audi of America (audiusa) - Profile | Pinterest 的評價
audi us 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
รถบรรทุก ขับด้วยตัวเอง จะเปลี่ยนโลกการขนส่ง ไปตลอดกาล /โดย ลงทุนแมน
นอกจากรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าแล้ว
พัฒนาการของรถไร้คนขับ ก็เป็นอีกนวัตกรรมที่คนทั่วโลกต่างจับตามอง
ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ขับขี่ได้โดยไม่ต้องจับพวงมาลัยของ Tesla และ Audi
หรือแม้แต่รถมินิแวนไร้คนขับของ Waymo บริษัทในเครือ Alphabet
แต่รู้หรือไม่ว่านอกเหนือจากการเดินทางในชีวิตประจำวันแล้ว ผู้พัฒนานวัตกรรมไร้คนขับก็กำลังขับเคี่ยวกันในอุตสาหกรรมการขนส่งเพื่อพัฒนา “รถบรรทุก” ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
แล้วนวัตกรรมรถบรรทุกไร้คนขับนี้ ส่งผลต่อระบบการขนส่งสินค้าอย่างไร
และกำลังพัฒนาไปถึงระดับไหนแล้ว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สินค้าแทบทุกชิ้นที่อยู่รอบตัว ต่างต้องเคยผ่านการขนส่งด้วยรถบรรทุกก่อนมาถึงมือเรา
อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคคิดเป็นสัดส่วนจากรถบรรทุกกว่า 2 ใน 3 นั่นจึงทำให้อุตสาหกรรมรถบรรทุกในประเทศแห่งนี้ มีมูลค่ากว่า 25 ล้านล้านบาท
และด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ
ที่ปัจจุบัน ต่างหันมาแข่งขันกันในเรื่องความเร็วในการจัดส่ง
โดยเฉพาะบริการ “Same Day Delivery” หรือบริการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียว
เหล่าคนขับรถขนส่งสินค้ารวมไปถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ จึงต้องทำงานหนักมากขึ้น
เพราะต้องเพิ่มความเร็วในการขนส่งตามนโยบายของบริษัท รวมถึงต้องทำงานเกินเวลา
นั่นจึงทำให้อาชีพคนขับรถบรรทุก มีจำนวนชั่วโมงการทำงานอยู่ที่ 10 ถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน เลยทีเดียว
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนขับรถส่งสินค้าของ Amazon.com ออกมาประท้วงเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
หรือแม้แต่การนัดกันหยุดงานและออกมาชุมนุมในประเทศเกาหลีใต้ของคนขับรถรับส่งและรถบรรทุกสินค้าหลายบริษัท หนึ่งในนั้นก็คือ Coupang บริษัทอีคอมเมิร์ซเกาหลีใต้ เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แล้วทำไม บริษัทเหล่านี้ไม่จ้างพนักงานขับรถบรรทุกเพิ่ม ?
เหตุผลสำคัญที่บริษัทไม่นิยมจ้างพนักงานขับรถมาเพิ่ม ไม่ใช่เพียงเพราะต้นทุนค่าจ้างที่จะสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานอยู่ด้วย
อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกามีการประเมินไว้ว่า คนขับรถบรรทุกขาดแคลนมากกว่า 60,000 ตำแหน่ง และจะขาดแคลนมากขึ้นกว่านี้อีกเป็นเท่าตัว ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นั่นก็เพราะว่าผู้ประกอบอาชีพขับรถบรรทุก มีอายุเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงและกำลังทยอยเกษียณอายุกันแต่กลับไม่มีคนวัยหนุ่มสาวเข้ามาทดแทน เพราะความนิยมในอาชีพเหล่านี้น้อยลงไปทุกที
นวัตกรรมขับเคลื่อนอัตโนมัติ จึงจะมีบทบาทสำคัญ ในการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมรถบรรทุก
เพราะระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง จึงสามารถขนส่งได้
แม้ในช่วงนอกเวลางานของคนขับรถซึ่งจะเข้ามาช่วยร่นระยะเวลาการขนส่งสินค้าทั้งระบบให้รวดเร็วขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สตาร์ตอัปรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติสัญชาติอเมริกันที่ชื่อ TuSimple ได้ทดลองขนส่งแตงโมโดยเดินทางผ่าน 3 เมือง เป็นระยะทาง 1,530 กิโลเมตร ผลปรากฏว่าใช้เวลาน้อยกว่ารถบรรทุกแบบดั้งเดิมที่มีคนขับถึง 42% หรือจาก 24 ชั่วโมง เหลือเพียง 14 ชั่วโมง
นอกจากเวลาที่ใช้น้อยลงแล้ว พลังงานและแรงงานก็ถูกใช้น้อยลงด้วยเช่นกัน
ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลงในระยะยาว ซึ่งถ้าพัฒนาไปถึงขั้นที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ ก็จะลดต้นทุนได้ถึง 50% แม้ว่าบริษัทจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาที่สูงในช่วงแรกก็ตาม
และเมื่อรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบใช้ไฟฟ้า
นวัตกรรมดังกล่าวจึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถบรรทุกจะมีความท้าทายที่มากกว่ารถยนต์
ทั้งในเรื่องของน้ำหนักตัวรถที่มากกว่าและตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่า รวมถึงการพัฒนาระบบเซนเซอร์และระบบคาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้ ก็ต้องทำให้ตอบสนองได้เร็วกว่า และประมวลผลไปได้ล่วงหน้ากว่ารถยนต์เป็นเท่าตัว
เมื่อดูความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีไร้คนขับของรถบรรทุก
จากระบบการแบ่งระดับของเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติที่กำหนดโดย SAE International
ที่เริ่มจากระดับ 0 คือเป็นยานยนต์คนขับ 100%
ไปจนถึงระดับ 5 ที่เป็นยานยนต์ไร้คนขับ 100%
ในปัจจุบันรถบรรทุกไร้คนขับส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า
โดยระดับ 3 ที่ว่านี้ มีชื่อเรียกว่า “Conditional Automation” ซึ่งรถจะขับเคลื่อนได้เองเลย
แต่ยังมีคนขับนั่งไปด้วยเผื่อต้องควบคุมพวงมาลัยในกรณีฉุกเฉิน
ในกรณีของรถบรรทุก จะใช้ระบบเพิ่มเติมที่เรียกว่า “Platoon” ซึ่งคือการที่ให้รถบรรทุกวิ่งตามกันเป็นขบวน โดยแต่ละคันจะเชื่อมต่อด้วยระบบแบบไร้สายเพื่อให้รถคันหลังตอบสนองตามคันที่นำขบวน
สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 ของรถบรรทุกในช่วงแรกจะเป็น Platoon แบบมีคนขับ
คือรถบรรทุกทุกคันในขบวนยังมีคนขับนั่งไปด้วย และจะใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ Platoon นี้บนทางหลวงเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ถนนโล่งและเป็นระยะทางยาว พอเข้าสู่ถนนปกติที่พลุกพล่าน ก็จะสลับมาให้คนขับรถแทน
ในระยะต่อมา ก็จะถูกพัฒนาไปเป็นระบบ Platoon แบบไร้คนขับ
โดยจะมีคนนั่งหลังพวงมาลัยเฉพาะในรถที่นำขบวนเท่านั้น
ส่วนรถคันอื่นจะขับเคลื่อนเองแบบไร้คนขับ
แต่ยังคงใช้ระบบนี้เฉพาะบนทางหลวงเหมือนเดิม ซึ่งช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้เฉลี่ย 10%
ระบบ Platoon แบบมีคนขับ เริ่มทดลองสำเร็จเมื่อปี 2016
จากโครงการ European Truck Platooning Challenge
โดยมีบริษัทชั้นนำอย่าง Daimler, Volvo และ Scania ที่เป็นบริษัทในเครือ Volkswagen ซึ่งสามารถทำสถิติขบวนรถบรรทุกที่วิ่งได้ระยะทางไกลสุดในโครงการนี้ ด้วยระยะทาง 2,000 กิโลเมตร จากประเทศสวีเดน ผ่านเดนมาร์ก เยอรมนี ไปถึงปลายทางที่เนเธอร์แลนด์
ก่อนที่ปีต่อมา Scania และ Toyota เริ่มทดลองระบบ Platoon แบบไร้คนขับได้สำเร็จในประเทศสิงคโปร์
และปัจจุบัน บริษัทส่วนใหญ่กำลังพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถบรรทุก
ให้เข้าสู่ระดับ 4 ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีระบบเชื่อมต่อกันเป็นขบวนแล้ว
และไม่ต้องมีคนขับรถเลยในช่วงที่เป็นทางหลวง รวมถึงในบางเส้นทางที่มีการบันทึกข้อมูลไปแล้ว
แต่คนขับรถจะมีบทบาทในช่วงเส้นทางที่ซับซ้อนมาก และยังต้องมีคนขนของขึ้นลงรถตามจุดต้นทางและปลายทางอยู่
McKinsey คาดการณ์ว่ารถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติในระดับ 4 หรือ “High Automation” จะสามารถพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์อย่างน้อยภายในปี 2025 ถึง 2027
หลังจากนั้นจึงจะเริ่มเข้าสู่ระดับสูงสุดที่ระดับ 5 หรือ “Full Automation”
ที่ยานยนต์จะขับเคลื่อนได้เองแบบไร้คนขับโดยสมบูรณ์
และบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติในปัจจุบัน
อ้างอิงจากการวิเคราะห์ของ Bloomberg ก็คือ TuSimple, Aurora และ Waymo
TuSimple เป็นสตาร์ตอัปนวัตกรรมไร้คนขับที่โฟกัสรถบรรทุกอย่างเดียวมาตั้งแต่แรก และมีการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถบรรทุกที่ก้าวหน้าที่สุดในขณะนี้ โดย TuSimple ตั้งเป้าว่าจะวางระบบขนส่งด้วยรถบรรทุกไร้คนขับได้ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาในอีก 3 ปีข้างหน้า
ส่วน Aurora และ Waymo เริ่มต้นมาจากการพัฒนารถยนต์และรถให้บริการรับส่งคน ก่อนที่จะเข้ามาสู่ตลาดรถบรรทุก ซึ่งผู้ก่อตั้ง Aurora ก็คืออดีตทีมบริหารจาก Waymo และ Tesla นั่นเอง
ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่หลายบริษัทตัดสินใจเลือกพัฒนารถบรรทุกควบคู่ไปด้วย
ก็เป็นเพราะว่า ด้วยความที่รถบรรทุกใช้ขนส่งสิ่งของที่ไม่มีชีวิต
และการมุ่งเน้นในการพัฒนารถบรรทุก ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ไร้คนขับอย่างสมบูรณ์ อาจเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมรถบรรทุก ก่อนยานยนต์อื่น ๆ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.mckinsey.com/industries/travel-logistics-and-infrastructure/our-insights/distraction-or-disruption-autonomous-trucks-gain-ground-in-us-logistics
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-05-01/waymo-tusimple-aurora-inside-the-race-to-build-self-driving-trucks
-https://www.vox.com/recode/2020/7/1/21308539/self-driving-autonomous-trucks-ups-freight-network
-https://www.weforum.org/agenda/2020/03/self-driving-trucks-will-change-the-world-more-than-you-might-think/
-https://techsauce.co/tech-and-biz/6-level-autonomous-car
-https://www.theverge.com/2016/4/7/11383392/self-driving-truck-platooning-europe
-https://www.engadget.com/2017-01-25-singapore-full-scale-autonomous-truck-platooning-trial.html
-https://www.cnbc.com/2021/05/19/tusimple-self-driving-trucks-saved-10-hours-on-24-hour-run.html
audi us 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
พฤติกรรมการซื้อรถยนต์ในโลกนี้ กำลังเปลี่ยนไป /โดย ลงทุนแมน
หากเรามาดูบริษัทที่มูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจ “เคลื่อนย้ายผู้คน” ในโลกนี้
Tesla 18.6 ล้านล้านบาท
Toyota 7.2 ล้านล้านบาท
Volkswagen 4.9 ล้านล้านบาท
Daimler 3.2 ล้านล้านบาท
Uber 3.0 ล้านล้านบาท
จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่านอกจาก Tesla ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นผู้นำนวัตกรรมแห่งอนาคต และตลาดให้มูลค่ามากที่สุด
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Uber ที่แม้จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์
แต่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายผู้คนเหมือนกัน
ได้ก้าวขึ้นมาติด 1 ใน 5 แล้ว
DiDi ที่ทำธุรกิจคล้ายกัน แต่อยู่ในประเทศจีน
ก็ถูกประเมินมูลค่าอยู่ในระดับเดียวกันกับ Uber
แล้ว Uber กับ DiDi จะกลายเป็นความท้าทาย
ของเหล่าผู้ผลิตรถยนต์อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อุตสาหกรรมยานยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
ซึ่งคาดการณ์ว่ามีมูลค่าตลาดกว่า 160 ล้านล้านบาท
ปัจจุบันเรามีวิธีการเดินทางมากมาย ตั้งแต่ขี่จักรยาน ขี่จักรยานยนต์ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ นั่งแท็กซี่
รถเมล์ รถตู้ เครื่องบิน รถไฟ และอื่น ๆ นับไม่ถ้วน
แต่จากการสำรวจก็พบว่า การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด
หากเราวัดการใช้พาหนะด้วยระยะทาง
สำหรับการเดินทางทุก ๆ 10 กิโลเมตร
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวของชาวอเมริกันคิดเป็น 8 กิโลเมตร
ชาวยุโรปอยู่ที่ 7 กิโลเมตร ในขณะที่ชาวจีน 6 กิโลเมตร
แต่หากดูสถิตินี้อย่างละเอียด จะพบว่าการเดินทางส่วนใหญ่
เกิดจากการเดินทางไปยังที่ชานเมืองหรือพื้นที่ชนบท
ซึ่งรถยนต์ส่วนตัวส่วนใหญ่จะเป็นคำตอบของเรื่องนี้
ประเด็นที่น่าคิดคือ หากระบบการขนส่งชานเมือง
และชนบทพัฒนาได้เท่ากับในเมืองแล้ว
แนวโน้มการใช้รถยนต์ส่วนตัวจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ?
จากรายงานของ The Economist ระบุว่า ถ้าหากมาดูในหัวเมืองขนาดใหญ่
จะพบว่าการซื้อรถยนต์มาเป็นของตัวเองกำลังถดถอยลง และกำลังถูกแทนที่
ด้วยวิธีการขนส่งในรูปแบบใหม่ ๆ
โดยการขนส่งรูปแบบใหม่ในที่นี้ก็เช่น Uber, DiDi, Lyft และ Grab
แพลตฟอร์มบริการเรียกรถที่เรารู้จักกันดี
นอกจากนี้ ก็ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น
Zipcar ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเช่ารถได้เป็นรายชั่วโมงหรือแม้แต่เช่าเป็นรายนาที
ซึ่งปัจจุบันมีผู้สมัครสมาชิกเกิน 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Turo เป็นแพลตฟอร์มให้บริการแบ่งปันรถยนต์แบบเพียร์ทูเพียร์
ที่มีรถยนต์ 450,000 คันลงทะเบียนอยู่ในแพลตฟอร์ม
BlaBlaCar เชื่อมโยงคนขับกับผู้คนที่ต้องการเดินทางไปเส้นทางเดียวกัน
มีผู้สมัครสมาชิกประมาณ 87 ล้านคน และให้บริการครอบคลุมถึง 22 ประเทศ
ซึ่งในประเทศไทยก็มีแพลตฟอร์มที่คล้าย ๆ กัน ชื่อว่า Liluna
นอกจากรูปแบบรถยนต์แล้ว ยังมีบริการเช่าจักรยานและสกูตเตอร์ไฟฟ้า
โดยรูปแบบการเดินทางทั้งหมดนี้ กำลังมาส่งเสริมซึ่งกันและกันมากขึ้น
นึกภาพว่าเรากดใช้ Grab ในการเรียกวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อมาขึ้นขนส่งสาธารณะ
หลังจากนั้นเราก็อาจใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าในการเดินทางระยะสั้น ๆ
ซึ่งเห็นได้ว่าสร้างความรวดเร็วและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะยังเห็นไม่ได้ชัดในประเทศไทย
แต่หลาย ๆ ประเทศเริ่มมีแนวโน้มที่เป็นเช่นนี้
อย่างประเทศเยอรมนี Deutsche Bahn บริษัทรถไฟของรัฐ
มีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้โดยสารใช้ตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย
หรืออย่างประเทศฟินแลนด์เองก็มีแอปพลิเคชันที่รวบรวมการขนส่งทั้งหมด
ตั้งแต่ขนส่งสาธารณะ แท็กซี่ จักรยาน และรถยนต์ไว้ในแอปพลิเคชันเดียว
ถึงแม้ว่าประเทศไทยเอง อาจจะยังไม่ได้เป็นเหมือนประเทศที่กล่าวมา
แต่ก็เห็นได้ว่า พฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
สังเกตได้จากข้อมูลของ LINE MAN TAXI ที่มียอดใช้บริการถึง 3 ล้านครั้งต่อปี
ซึ่ง IHS Markit หรือบริษัทผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก
คาดการณ์ว่า ตลาดการขนส่งในรูปแบบใหม่พวกนี้
จะมีมูลค่าถึง 12 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030
และ KPMG คาดว่าอาจกินส่วนแบ่งการตลาดถึง 40%
ของธุรกิจที่เกี่ยวกับการขนย้ายคนในปี 2050
จากเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคกำลังมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น
และอีกนัยหนึ่งก็มีโอกาสทางธุรกิจอีกมหาศาลด้วย
ซึ่งหากผู้ผลิตรถยนต์ไม่เริ่มทำอะไร
ก็อาจจะส่งผลเสียในอนาคตได้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ก็ไม่ได้นิ่งเฉย
และเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้
ผู้ผลิตรถยนต์บางรายเริ่มมีการปรับตัวเป็นให้บริการเช่ารถรายเดือนมากขึ้น
โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งอยู่ในวัย Millennial
อย่างเช่น Volvo มีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ 19,000 บาท
Audi และ Lexus มีค่าบริการรายเดือนที่ 31,000 บาท
ซึ่งเป็นการเช่ารถยนต์สำหรับนำมาใช้โดยเฉพาะ รวมค่าใช้จ่ายครบทุกอย่าง ยกเว้นน้ำมัน
หรือผู้ผลิตรถยนต์บางรายก็เลือกที่จะเข้าไปลงทุน
ในเหล่าสตาร์ตอัปที่เกี่ยวกับการขนส่งแทน
ไม่ว่าจะเป็น General Motors ลงทุน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่
Volkswagen ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Gett ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ของยุโรป
รวมถึง Toyota ก็ได้ลงทุนทั้งใน Uber, DiDi และ Grab
นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายเริ่มสร้างช่องทางออนไลน์ขายตรงถึงลูกค้า
แทนที่จะพึ่งพิงกับตัวแทนจำหน่าย เหมือนอย่างที่ Tesla กำลังทำ
เพราะอนาคตการขายรถยนต์หนึ่งคัน
จะไม่ใช่แค่การขายเพียงครั้งเดียวแล้วจบเหมือนอย่างในอดีต
เพราะมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการ จะมีการสร้าง Ecosystem
ผ่านการให้บริการในหลายรูปแบบ เพื่อดึงให้ลูกค้าอยู่กับบริษัทนานขึ้น
แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์กำลังปรับตัวอย่างมากมาย แต่ใช่ว่าทุกโครงการจะสำเร็จ
Ford ยกเลิกโครงการ Chariot บริการรถมินิบัสร่วมกัน ในปี 2019
ในปีถัดมา Maven บริการแชร์รถและการเช่าแบบเพียร์ทูเพียร์ของ General Motors ก็ถูกปิดตัวลงไป
ถึงตรงนี้ เราก็คงสรุปได้ว่าธุรกิจที่ให้บริการเคลื่อนย้ายผู้คน
กำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน ทั้งในเชิงพลังงาน
ที่เปลี่ยนจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานไฟฟ้า
รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค
ที่ในอนาคตอาจจะไม่ได้ถามกันว่าจะซื้อรถยี่ห้ออะไร
แต่กลายเป็นว่าเราจะใช้บริการอะไรดี ให้ไปถึงจุดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หากพฤติกรรมของผู้บริโภคหันไปใช้บริการกลุ่มธุรกิจขนส่งรูปแบบใหม่มากยิ่งขึ้น
อุตสาหกรรมผู้ผลิตยานยนต์ก็จะแย่ลง
และบังเอิญเหมือนกันว่าเศรษฐกิจภาคการส่งออกของไทยเอง
ก็มีสัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่ามหาศาล
หากโลกเรากำลังหันเข้าหาโลกการเคลื่อนย้ายผู้คนแบบใหม่
แล้วธุรกิจเหล่านี้ จะเป็นอย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตาม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.economist.com/business/2021/04/15/new-means-of-getting-from-a-to-b-are-disrupting-carmaking
-https://www.zipcar.com/impact
-https://turo.com/us/en/about
-https://siamrath.co.th/n/220264
-https://www.longtunman.com/25674
-https://www.statista.com/statistics/574151/global-automotive-industry-revenue/
audi us 在 Nova Music Videos Youtube 的最讚貼文
Hari Ini Hari Raya - Amir Masdi | Official Music Video
Jom dengarkan single terbaru dari #AmirMasdi berjudul #HariIniHariRaya
Artist: Amir Masdi
Song : Hari Ini Hari Raya
Lyrics : Shazee Ishak , Audi Mok & Mambang
Composer : Shazee Ishak , Audi Mok & Mambang
#amirmasdi #HariIniHariRaya #NovaMusicMalaysia
FIND US, NOVA MUSIC MALAYSIA.
Instagram : @novamusicmy
Facebook : Nova Music Malaysia
For artist show bookings/enquiries, please contact (NOVA) at : 012-6030226
audi us 在 Nova Music Videos Youtube 的最佳貼文
Manja - Farra Ahmad | Official Video Lyric
Memperkenalkan Farra Ahmad. Jom dengarkan single terbaru dari #FarraAhmad berjudul #Manja
Artist: Farra Ahmad
Song : Manja
Lyric: Shazee Ishak & Audi Mok
Composer: Shazee Ishak & Audi Mok
#farraahmad #manja #NovaMusicMalaysia
FIND US, NOVA MUSIC MALAYSIA.
Instagram : @novamusicmy
Facebook : Nova Music Malaysia
For artist show bookings/enquiries, please contact (NOVA) at : 012-6030226
audi us 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
สายการผลิต 2022 Audi e-Tron GT production รถสปอร์ตซีดานพลังไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 640 แรงม้า ก่อนเปิดตัวในเมืองไทย
ก่อนที่จะมีการเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราขอพามาชมสายการผลิต Audi e-Tron GT รถสปอร์ตซีดานหรูพลังงานไฟฟ้า จากตระกูล e-Tron ซึ่งในต่างประเทศเพิ่งมีการเปิดตัวในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทำตลาดใน 2 รุ่นด้วยกันคือรุ่น e-Tron GT quattro และรุ่น RS e-tron GT
With an energized driving demonstration and a world premiere featuring high-caliber participants, Audi has presented its new electric spearhead – the Audi e-tron GT. In two events on the digital Day of Progress, the Four Rings showcased the highlights of this fully electric Gran Turismo: dynamic driving performance, emotional design, and sustainability.
“The e-tron GT is a stand-alone Gran Turismo, reinterpreted for the future. Its looks are a testament to premium automotive design.Bringing impressive driving performance, this is electro-mobility in the most emotive way. And with its sustainable concept, it takes a stand,” explains Markus Duesmann, CEO of AUDI AG. “Because it’s not just the drive concept that is sustainable. The entire production at our Böllinger Höfe site now has a carbon neutral energy balance.This sends an important signal – for the site, our workforce and the future viability of Audi.”
Audi also set a new benchmark with the digital world premiere, the Day of Progress. Two digital events presented the Audi e-tron GT: in the Sprint of Progress, the Formula E driver Lucas di Grassi and the sustainability entrepreneur and Formula 1 world champion Nico Rosberg demonstrated the dynamic driving performance of the Audi RS e-tron GT alongside the current Formula E racing car of the Four Rings, the Audi e-tron FE07. In a trip on the circuit of the Audi Driving Experience Center in Neuburg an der Donau, the spotlight was on the dynamic performance of the new model.
In the Celebration of Progress, the brand with the Four Rings introduced the Audi e-tron GT to the public for the first time. In the hour-long virtual show, Markus Duesmann and Hildegard Wortmann, Board Member for Sales and Marketing, together with further Audi protagonists such as Henrik Wenders, Senior Vice President for the Audi Brand, and Marc Lichte, Head of Design, presented the highlights of the new model.
A varied program emphasized the forward-looking attitude of the Four Rings brand. With reference to the importance of design, sustainability and performance, the actor and producer Tom Hardy, the designer Stella McCartney and Nico Rosberg added their personal insights. Themusical accompaniment to the unveiling of the car was performed by the US-American singer and songwriter Janelle Monáe, while Steven Gätjen as moderator guided the audience through the show.
The GREENTECH FESTIVAL and Audi, a founding partner of this platform for sustainability, together presented the GREEN FUTURE Award for the first time as part of the world premiere of the Audi e-tron GT. The prize, part of the festival’s GREEN AWARDS, is given to projects and persons that promote environmentally compatible urbanization and at the same time make an important contribution to improving the quality of life in urban infrastructure. The winner is the start-up Zencity, based in Tel Aviv, with an algorithm that collects and analyzes social media posts and local news from cities.
Both events are still available to be accessed online.
Quotes from the Celebration of Progress
“The Audi e-tron GT is the beginning of a new era for Audi. Our aim is to shape the future of electric premium mobility. Love of detail, maximum precision, and design that points the way to the future show how much passion we at Audi put into designing and making vehicles.”
Hildegard Wortmann, Board Member for Sales and Marketing, AUDI AG
“With the Audi e-tron GT we are putting the DNA of Audi on the road. The Gran Turismo superbly reflects our innovative strength and our pioneering spirit. For us it is already part of a line of icons of the brand, alongside the Audi TT and the Audi R8.”
Henrik Wenders, Senior Vice President, Audi Brand, AUDI AG
“For me, progress means creating something new. Something that no one has ever done before in this form. Designing a fully electric vehicle is like this: the entire design process has to be thought through anew.”
Marc Lichte, Head of Design, AUDI AG
“The Audi RS e-tron GT is a milestone in the development of electrified high-performance models.”
Lucas di Grassi, Formula E driver and entrepreneur
“Electric mobility is the future. Of course the path to the goal is a long one. It’s great to see that Audi is taking this path with determination.”
Nico Rosberg, sustainability entrepreneur and Formula 1 world champion
audi us 在 Audi of America (audiusa) - Profile | Pinterest 的推薦與評價
Audi of America | Shaping the future of premium mobility. ... <看更多>
audi us 在 Audi USA - Home | Facebook 的推薦與評價
Audi USA. 10977068 likes · 8430 talking about this. Shaping the future of premium mobility. ... <看更多>